รวมเบอร์แก้หนี้ จ่ายหนี้ไม่ไหว อยากแก้ปัญหาหนี้ ต้องโทรเบอร์อะไร ?

เบอร์แก้หนี้ ปรึกษาหนี้ บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล ตามมาตรการแก้หนี้ยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องโทร. เบอร์ไหน รวบรวมมาให้แล้ว

สำหรับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน นาโนไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อ SMEs แต่ประสบปัญหาสภาพคล่องไม่สามารถชำระหนี้ได้ ขณะนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มอบหมายให้สถาบันการเงินต่าง ๆ เปิดสายด่วนเพื่อปรึกษาและแก้ไขปัญหาหนี้โดยตรง ตามมาตรการแก้หนี้ยั่งยืนที่จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป โดยลูกหนี้สามารถโทรศัพท์ไปขอคำปรึกษาและเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรังได้ด้วยตัวเองที่หมายเลขโทรศัพท์ต่อไปนี้

เบอร์แก้หนี้ สายด่วนแก้หนี้ธนาคาร

• ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213 กด 99
• ธนาคารกรุงเทพ โทร. 1333 หรือ 0-2645-5555 กด 99
• ธนาคารกรุงไทย โทร. 0-2111-1111 กด 99
• ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 0-2777-7777 กด 99
• ธนาคารกสิกรไทย โทร. 0-2888-8888 กด 99
• ธนาคารทหารไทยธนชาต โทร. 1428 กด 99
• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา โทร. 1572 กด 99
• ธนาคารทิสโก้ โทร. 0-2633-6000 กด 99 หรือ 0-2080-6000 กด 99
• ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โทร. 0-2165-5555 กด 99
• ธนาคารออมสิน โทร. 1155
• ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร. 0-2169-9999 กด 99

เบอร์โทร. สายด่วนแก้หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อ

• บัตรกรุงศรีอยุธยา โทร. 0-2714-5155
• มันนิกซ์ โทร. 0-2113-1113 ต่อ 99
• ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2022 และเงินสดทันใจ โทร. 1652 ต่อ 99
• เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล โทร. 1361 กด 9 ต่อ 99
• เคบี เจ แคปปิตอล โทร. 1258
• เจเนอรัล คาร์ด เซอร์วิสเซส โทร. 0-2714-5155
• ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง โทร. 0-2107-2222
• พรอมิส (ประเทศไทย) โทร. 0-2036-9517
• เมืองไทย แคปปิตอล โทร. 1455 กด 1
• แรบบิท แคช โทร. 0-2114-6889
• โลตัสส์ มันนี่ เซอร์วิสเซส โทร. 0-2714-5155
• อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส โทร. 0-2714-5155
• ไอร่า แอนด์ ไอฟุล โทร. 0-2012-8100

สำหรับผู้ให้บริการอื่น ๆ สามารถติดต่อผ่าน call center หรือเบอร์โทร. เฉพาะสำหรับปรึกษาปัญหาหนี้ของแต่ละแห่งได้

มาตรการแก้หนี้ยั่งยืน ช่วยอะไรบ้าง

มาตรการแก้หนี้ยั่งยืนให้ความช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง ผ่านทั้งมาตรการเดิมและเพิ่มเติมมาตรการใหม่ ครอบคลุมไปถึงการแก้หนี้เรื้อรังและการคิดค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่เป็นธรรมยิ่งขึ้น เช่น

• แก้หนี้ก่อนและหลังเป็นหนี้เสีย โดยลูกหนี้ขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ทั้งก่อนเป็นหนี้เสีย (non-NPL) และหลังเป็นหนี้เสีย (NPL)
• โครงการคลินิกแก้หนี้ สำหรับหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ที่ค้างชำระเกิน 120 วัน ลดดอกเบี้ยเหลือ 3-5% ต่อปี และเปลี่ยนเป็นผ่อนจ่ายรายงวดสูงสุด 10 ปี
• แก้หนี้บัตรกดเงินสด (เริ่ม 1 เมษายน 2567) โดยเปลี่ยนหนี้บัตรเป็นหนี้ผ่อนจ่ายรายงวดสูงสุด 5 ปี ลดดอกเบี้ยเหลือไม่เกิน 15% ต่อปี
• ไม่คิดค่าปรับชำระหนี้ก่อนกำหนด (prepayment fee)
• ไม่คิดค่าธรรมเนียมปรับปรุงโครงสร้างหนี้
• ไม่คิดดอกเบี้ยบนดอกเบี้ย (เริ่ม 1 กรกฎาคม 2567)
• ผู้ใช้บริการจะได้รับข้อมูลสำคัญครบถ้วน เปรียบเทียบได้ โดยสถาบันการเงินต้องแจ้งเงื่อนไขผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน รู้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงทั้งต่ำสุดและสูงสุด รู้วิธีคิดค่างวดต่าง ๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ หากใครต้องการปรึกษาหรือขอแนวทางช่วยเหลือสามารถโทรศัพท์ไปยังสายตรงแก้หนี้ของแต่ละสถาบันการเงินได้เลย ซึ่งทางสถาบันการเงินจะเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล