“ทำไปทำไม?”
นี่คงเป็นคำถามที่หลายคนอยากถามแม่ลูกแฝดคนนี้…
และบางคนอาจคิดไปแล้วว่า “เพราะอยากได้แสง”
หรือ “ชีวิตติดคอนเทนต์”
แต่ถ้าได้มาอยู่ในรองเท้าคู่นี้
คุณอาจเห็นอีกมุมหนึ่งของคำตอบ
สำหรับเรา…นี่คือเรื่องของความทรงจำ
เราไม่ได้เข็นลูกไปเพียงเพื่อจบมาราธอน
เราเข็นพวกเขาไปพร้อมกับหัวใจ
ที่อยากให้ลูกได้อยู่ในทุกโมเมนต์สำคัญของชีวิตแม่
การเป็นแม่ มันไม่ใช่แค่การเลี้ยงดู
แต่คือการสร้างรากฐานของความเชื่อ
ความเชื่อที่ว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”
เราวิ่งครั้งนี้เพื่ออะไร?
เราไม่ได้วิ่งเพื่อถ้วย หรือเสียงปรบมือ
เรา วิ่งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
ทั้งให้ลูก และให้ตัวเอง
ลูกอาจยังไม่รู้ความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้…
แต่ในอนาคต เมื่อพวกเขามองย้อนกลับมา
พวกเขาจะรู้ว่า…
พวกเขาเคยผ่าน “ระยะฟูลมาราธอน”
ในช่วงเวลาที่เขายังวิ่งเองไม่ได้
และแม่ก็อยากให้พวกเขาเชื่อว่า…
ถ้าแม่ทำได้ วันหนึ่งพวกเขาก็ทำได้เช่นกัน
ทรมานลูกไหม?
หลายคนอาจถาม
แต่คุณรู้ไหม…
ลูกทั้งสองหลับสบายตลอดทาง
ไม่มีเสียงร้อง ไม่มีความทุกข์
มีแต่ตอนนี้ พูดว่า “อยากไปอีก อยากเห็น”
เพราะเขาเห็นตอนปล่อยตัว ได้ทักทายพี่ๆนักวิ่ง
แต่เขาไม่เห็นตอนเข้าเส้นชัย แฝด หลับ
และแม่เห็นลูกกำลังสบาย เลยไม่อยากปลุก
แม่เตรียมทุกอย่างอย่างดีที่สุด
รถเข็นที่อบอุ่น
ของโปรดที่ช่วยปลอบโยน
การวางแผนที่รอบคอบที่สุด
ทั้งหมดนี้ทำไปเพื่อให้เขามีความสุข
ในขณะที่แม่ใช้หัวใจทั้งหมด “ผลักดัน”
ครอบครัวนี้ไปจนถึงเส้นชัย
และถ้าถามว่า “ทำเพื่อแสงหรือเปล่า?”
แสงที่เราอยากได้มากที่สุด
ไม่ใช่จากสายตาคนอื่น
แต่คือแสงสว่างในใจลูก
วันที่เขาโตขึ้นแล้วรู้ว่า…
ความสำเร็จที่แท้จริง
ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย
แต่มันเริ่มจากการตั้งใจลงมือทำ
และอดทนจนถึงที่สุด
เราไม่วิ่งเพื่อตัวเอง…
เราวิ่งเพื่อเขียนเรื่องราวที่มีค่าให้ลูกในอนาคต
และถ้าคุณมองลึกลงในสิ่งที่เราทำ…
อาจเห็นแรงบันดาลใจที่คุณเองก็สามารถนำไปใช้ได้
เพราะท้ายที่สุด…
ไม่ว่าคุณจะเลือกวิ่ง หรือทำสิ่งใดในชีวิต
ทุกก้าวที่คุณตั้งใจทำไปเพื่อใครสักคน หรือเพื่ออนาคตของตัวเอง
มันก็คุ้มค่าที่จะลงมือทำ
สุดท้ายนี้…
ขอบคุณ ไทยรัฐ ที่เขียนถึงเราด้วยมุมมองที่ดีมากๆ
และขอบคุณทุกคนที่ร่วมเป็นกำลังใจให้แม่ลูกแฝดคู่นี้ค่ะ
Comment