นักวิชาการเป็นห่วงไฟไหม้โรงงานพลาสติก และเคมีภัณฑ์ในนิคมมาบตาพุด อันตรายเป็นสารก่อมะเร็ง เสี่ยงก่อมะเร็งตับ กระทบระบบสืบพันธุ์ ควรหลีกเลี่ยงการได้รับควัน ควรอพยพออกจากโรงงาน อย่างน้อย3กม.
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” ระบุ เหตุการณ์ไฟไหม้ บริเวณ Plant VCM1 ภายในโรงงานบริษัทไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด ในพื้นที่นิคมมาบตาพุด จ.ระยอง ทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวและสีดำปริมาณมาก กลุ่มควันดังกล่าวพัดไปยังตลาดมาบตาพุด ชุมชนบ้านพลง ชุมชุนอิสลาม โดยนักวิชาการคนดังกล่าวมีคำแนะนำดังนี้
1.ควรหลีกเลี่ยงการได้รับควันและไอระเหยดังกล่าวเพราะเป็นสารก่อมะเร็ง ควรอพยพออกจากโรงงานดังกล่าวอย่างน้อย3กม.
2.สารVCM หรือไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ (Vinyl chloride monomer; Ethylene monochloride; Monochloroethylene) ใช้ผลิตเม็ดพลาสติก เป็นก๊าซไม่มีสี เป็นก๊าซไวไฟสูงมาก จัดเป็นสารก่อมะเร็ง และเก็บเป็นของเหลวภายใต้ความดัน ไอระเหยของสารVCM เมื่อรวมตัวกับอากาศในอัตราส่วนที่พอเหมาะจะทำให้เกิดการระเบิดได้โดยปล่อยสารคลอรีนออกมามีอัน ตรายต่อสุขภาพอย่างมาก หากหายใจเข้า ไปทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรง
ทั้งนี้เป็นพิษต่อระบบประสาท เป็นอันตรายต่อระ บบหลอดเลือดแดง ผิวหนัง กระดูก ตับ พิษแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นเมื่อได้รับสารในปริมาณความเข้มข้นสูง จะทำให้มีอา การมึนงง วิงเวียน อ่อนเพลีย ง่วงนอน เสียการทรงตัว การได้ยินและการมองเห็นไม่ชัดเจน ถ้าได้รับในปริมาณความเข้มข้นสูงมากจะทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ยังเป็นพิษแบบเรื้อรังกล่าวคือหากได้รับไวนิลคลอไรด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการพิษทางระบบประสาท การรับรู้ต่างๆ น้อยลง เป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์และก่อมะเร็งที่ตับ
3.ไวนิลคลอไรด์เป็นก๊าซไม่มีสีที่ถูกติดไฟเผาไหม้ได้ง่ายและระเหยอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะใช้ในการผลิตโพลีไวนิลคลอไรด์หรือ PVC ซึ่งใช้ทำผลิตภัณฑ์พลาส ติกหลากหลายประเภท เช่น ท่อ สายไฟ และวัสดุบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น หากเกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ไม่สามารถใช้การสเปรย์น้ำ (water spray) หรือพ่นหมอกน้ำ(water fog) ห้ามฉีดน้ำโดยตรงไปยังถังเก็บสารเคมีดังกล่าว ในการดับเพลิงได้ต้องใช้โฟมดับไฟ หรือคาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้น
Comment