กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อมีผู้กู้ยืมรุ่นพี่ค้างชำระหนี้สูงถึง 9.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุนและอาจทำให้ผู้กู้รุ่นน้องไม่ได้รับเงินกู้เรียนต่อ
กยศ. วิกฤต! รุ่นพี่เบี้ยวหนี้ 9.7 หมื่นล้าน อนาคตเด็กไทยดับวูบ
กยศ. ยังคงเผชิญกับปัญหาหนี้ค้างชำระที่สูงถึง 97,110 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากผู้กู้ขาดวินัยทางการเงิน เช่น ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด หรือชำระไม่ครบจำนวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุน และเพื่อแก้ไขปัญหานี้ กยศ. ได้ขอจัดสรรงบประมาณแผ่นดินปี 2568 จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าจะได้รับเพียง 1 พันล้านบาทเท่านั้น หากงบประมาณไม่เพียงพอ กยศ. จะเสนอขอใช้งบกลางเพื่อเพิ่มสภาพคล่องต่อไป นอกจากนี้ กยศ. ยังคงเดินหน้าดำเนินมาตรการติดตามหนี้และให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้กู้ เพื่อส่งเสริมวินัยทางการเงินและลดปัญหาหนี้เสียในอนาคต
กมธ. หนุน กยศ. ลงทุนอนาคตชาติ ชง 2 ข้อเสนอแก้ปัญหาขาดแคลนงบ
คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาแล้วเห็นพ้องต้องกันว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญต่ออนาคตของชาติ ดังนั้น กยศ. จึงควรได้รับการจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอ เพื่อให้สามารถดำเนินภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างต่อเนื่อง
เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนงบประมาณของ กยศ. กมธ. ขอเสนอแนะแนวทาง 2 ประการ ดังนี้
- รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณสนับสนุน กยศ. เพื่อให้กองทุนมีเงินทุนเพียงพอในการปล่อยกู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา ที่มีความต้องการและมีศักยภาพในการศึกษาต่อ การสนับสนุนงบประมาณนี้ถือเป็นการลงทุนในอนาคตของชาติอย่างแท้จริง
- ปลูกฝังจิตสำนึกการชำระหนี้คืน กยศ. ในกลุ่มผู้กู้ยืม เพื่อให้เงินทุนหมุนเวียนกลับมาช่วยเหลือผู้กู้รายอื่น ๆ ต่อไป การสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการชำระหนี้คืน กยศ. จะช่วยให้กองทุนสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม
ปรับโฉมครั้งสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
เมื่อเร็วๆนี้ นาย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงข่าวใหญ่เกี่ยวกับการปรับโฉมครั้งสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยเผยตัวเลขล่าสุดว่ามีผู้กู้ยืมแล้วกว่า 6,809,598 ราย คิดเป็นเงินกู้รวมสูงถึง 769,776 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ กยศ. ไม่กำหนดให้มีผู้ค้ำประกันในการกู้ยืมอีกต่อไป นับเป็นการเปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุนการศึกษามากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือไม่มีผู้ค้ำประกันได้ นอกจากนี้ กยศ. ยังได้เปลี่ยนรูปแบบเป็นกองทุนหมุนเวียนตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งหมายความว่ากองทุนจะดำเนินการโดยใช้เงินที่ได้จากการชำระคืนเงินกู้ของผู้กู้เดิมมาหมุนเวียนให้กู้ยืมแก่ผู้กู้รายใหม่ ทำให้ไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินอีกต่อไป
สำหรับปีการศึกษา 2567 กยศ. ได้วางแผนให้กู้ยืมแก่ผู้กู้ 769,009 ราย เป็นเงิน 48,344.4208 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย
สรุป ภาพรวมของ กยศ. มีผู้กู้ยืมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจำนวน
เงินกู้ กยศ. | จำนวนคนและจำนวนเงิน |
ผู้กู้ยืมทั้งหมดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน | 6,809,598 ราย |
เงินให้กู้ยืมทั้งหมดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน | 769,776 ล้านบาท (อัปเดต 31/03/67) |
งบประมาณแผ่นดินที่ใช้ตั้งแต่ปี 2539-2560 | 468,673 ล้านบาท |
งบประมาณแผ่นดินที่ใช้ตั้งแต่ปี 2561-2567 | ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน |
กรอบให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2567 | 769,009 ราย |
จำนวนเงินให้กู้ยืมในปีการศึกษา 2567 | 48,344.4208 ล้านบาท |
เงินต้นที่ผิดนัดชำระหนี้ | 97,110 ล้านบาท |
สุดท้ายนี้ กยศ. กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้ค้างชำระจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุน แม้ว่า กยศ. จะได้รับการสนับสนุนจาก กมธ. ในการเพิ่มงบประมาณและปลูกฝังจิตสำนึกการชำระหนี้คืน แต่ก็ยังคงมีความท้าทายในการจัดการหนี้เสีย นอกจากนี้ กยศ. ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นกองทุนหมุนเวียนและยกเลิกการใช้ผู้ค้ำประกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนการศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษา แม้ว่า กยศ. จะยังคงเผชิญกับความท้าทาย แต่ก็มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทยผ่านการให้กู้ยืมอย่างต่อเนื่อง
Comment