น้อยใจลูกไม่มาหา พ่อจุดไฟเผา “รถจักรยานยนต์” โชคดีชาวบ้านช่วยดับไฟทัน ขณะที่ลูกสาวเผย พ่อเป็นโรคเครียด
วันที่ 6 ธ.ค. 2567 ร.ต.ท.จิณัฏฐ์ สัจจพรวรัญญู รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ที่เกิดเหตุบริเวณชุมชนร่วมสามัคคี 7 ปี มหาราช หมู่ที่ 10 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและรถน้ำเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย ร่วมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สีขาวส้ม หมายเลขทะเบียน 1กก 210 สมุทรปราการ จอดอยู่ข้างทาง พบมีชาวบ้านนำถังน้ำยาเคมีดับเพลิงมาฉีดไฟดับเป็นที่เรียบร้อย ตรวจสอบสภาพรถเบาะนั่งคนขับชุดสีตัวรถและบริเวณแผ่นหน้ารถได้รับความเสียหายเกิดจากไฟไหม้
เมื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบ นายสายชล อายุ 66 ปี ยืนอยู่บริเวณตรงจุดเกิดเหตุและเป็นเจ้าของรถ จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่านายสายชล เป็นคนจุดไฟเผารถตัวเองจนได้รับความเสียหายดังกล่าว แต่ตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เมื่อสอบถามสาเหตุทราบว่านายสายชลมีอาการน้อยใจลูกสาว (ครู) และลูกชาย (ตำรวจ) ที่ไม่กลับมาหาพ่อหรือไม่กลับมาไหว้พ่อในวันพ่อแห่งชาติ จึงมีอาการน้อยใจลูกๆ ถึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และนำตัว นายสายชล พร้อมนำรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุไปตรวจสอบและสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สำโรงใต้ เวลาต่อมา น.ส.อัญชลี อายุ 41 ปี เดินทางมาดูคุณพ่อเนื่องจากเพิ่งเลิกงาน ออกเวรมารู้ข่าวจึงได้รีบเดินทางมา ตำรวจได้บันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ขณะที่ นายพีรพล เขื่อนงูเหลือม อายุ 25 ปี ผู้ที่ช่วยนำถังสารเคมีเข้าฉีดไม่ให้เพลิงลุกไหม้รถจักรยานยนต์ เล่าว่า ขณะที่ทำงานอยู่ได้มีผู้หญิงเดินไปเรียกขอความช่วยเหลือ บอกว่าได้โทรไปแจ้งที่มูลนิธิแล้วแต่ยังมาไม่ถึง ซึ่งขณะเกิดเหตุตนเองก็ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ว่าไฟไหม้อะไร โดยจุดที่ไฟไหม้ใกล้ร้านสะดวกซื้อ ตนเองต้องวิ่งมาประมาณ 500 เมตรได้
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ถูกไหม้เกือบหมดแล้วที่บริเวณฝาถังน้ำมัน หลังจากที่ตนเองมาถึง จึงทำการฉีดถังดับเพลิงและไฟก็ดับ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าไฟไหม้เกิดจากสาเหตุอะไร เห็นเพียงแค่ฝาถังน้ำมันเปิดไว้คิดว่าน่าจะเกิดจากอากาศร้อน
ทางด้าน น.ส.อัญชลี ลูกสาวผู้ก่อเหตุ เผยว่า พ่อเป็นโรคเครียด มีอาการทางจิตเวชน่าจะมีความเครียด เวลาเครียดก็จะไปทำลายข้าวของภายในบ้าน แต่ไม่ได้ทำร้ายคน ซึ่งเป็นมานานมากแล้ว และในวันพ่อแกบ่นน้อยใจว่า ลูกทำงานราชการแต่ก็ไม่มีใครมาหา ซึ่งตนเองยอมรับว่าทำงานและติดงาน ซึ่งหลังจากเสร็จงานแล้วตนเองก็จะมาหาตามปกติ
ก่อนหน้านี้ก็เคยก่อเรื่องหรือมีเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ มีทำลายข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน ซึ่งเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ได้เผารถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการทำมาหากินและขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง และมีการพูดต่อหน้าว่าต่อไปจะเผาบ้าน ซึ่งตนเองก็เป็นห่วงคุณแม่ โดยคุณพ่อไม่ยอมรับว่ามีอาการป่วย และไม่ยอมไปหาหมอ ซึ่งตนเองรู้ว่าพ่อมีอาการป่วยและอยากจะพาไปรักษา ซึ่งแม่ของตัวเองก็คิดแบบเดียวกัน และพยายามหาทางนำพ่อไปรักษาอยู่.
Comment