วันเดียว 2 ตัว เศร้า พบพะยูนลอยตายกลางทะเลกระบี่ ชาวบ้านหวั่นสูญพันธุ์ วอนภาครัฐเร่งหาแนวทางแก้ไข หลังปีนี้ยอดตายพุ่ง 41 ตัวแซงหน้าปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอเหนือคลอง และอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ พบซากพะยูนเพศเมีย 2 ตัว ตัวโตเต็มวัยลอยตายกลางทะเลในวันเดียวกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตชีวิตสัตว์ทะเลหายาก
โดยพะยูนตัวแรกชาวประมงพื้นบ้านท่าคลอง ตำบลเกาะกลาง อำเภอเกาะลันตา พบขณะขับเรือผ่านบริเวณอ่าวเจ้าอูฐ ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา เป็นซากพะยูนเพศเมีย จึงแจ้งผู้นำชุมชน กลุ่มอนุรักษ์และมูลนิธิอันดามันเข้าตรวจสอบ
และในวันเดียวกัน ชาวบ้านพบซากพะยูนเพศเมียอีกตัวในพื้นที่ อ.เหนือคลอง โดยชาวประมงในหมู่ 3 บ้านเกาะจำ ต.เกาะศรีบอยา แจ้งผู้ใหญ่บ้าน และนำซากพะยูนมาส่งที่ท่าเรือท่าคลอง พร้อมรายงานไปยังศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง นำไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย พะยูนทั้ง 2 ตัวเป็นพะยูนโตเต็มวัย ไม่พบบาดแผลตามลำตัวที่ทำให้พะยูนตาย
ด้าน นายเรืองเดช คล่องดี อายุ 49 ปี ประธานศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้า บ้านท่าคลอง ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา เรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐรีบแก้ปัญหา ที่สำคัญแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพะยูนลดลง ซึ่งเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก ขณะนี้ได้ทดลองนำหญ้าทะเลปลูก ในบ่อกุ้ง เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มแหล่งอาหารให้แก่พะยูน
ขณะที่ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เดือนธันวา 3 วัน พะยูนตาย 5 ตัว ปีที่แล้ว 40 ตัว ปีนี้ 41 ตัว สองปี 81 ตัว บ้าไปแล้ว อะไรทำได้ต้องทำทันที ไม่มีเวลาเหลือแล้ว
พะยูนตายเยอะมาก ข้อมูลอาจสับสน ขอสรุปใหม่ให้ตรงกับกรมทะเล ปีนี้พะยูนตายไปแล้ว 41 ตัว มากกว่าปีก่อนที่ตาย 40 ตัว สองปีรวม 81 ตัว เมื่อเทียบกับจำนวนตายเฉลี่ยในอดีต ปีละ 12 ตัว พะยูนตายเพิ่ม 3.5 เท่า ในจำนวน 41 ตัวที่ตาย มีอยู่ 39 ตัว ตายในพื้นที่หญ้าทะเลเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากโลกร้อนในเขตอันดามันใต้ (ในบางพื้นที่อาจมีผลกระทบจากกิจกรรมมนุษย์ทับซ้อนอยู่ด้วย เช่น ตะกอนทราบที่เกาะลิบง)
ผลการสำรวจของกรมทะเลและหน่วยงานต่างๆ ตลอดเดือนพฤศจิกายน พบว่าหญ้าทะเลในตรัง กระบี่ และสตูล ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นหญ้าทะเลในอ่าวพังงาและภูเก็ตในบางพื้นที่ เริ่มแสดงอาการคล้ายใน 3 จังหวัด น่าเป็นห่วงว่าสถานการณ์จะแย่ลง พะยูนเต็มวัยต้องการหญ้าทะเล 13-16 ไร่ในการหากิน (ปกคลุมพื้นที่ 60%)
ปัจจุบัน นอกจากหญ้าทะเลที่ภูเก็ตและอ่าวพังงามีพื้นที่ไม่พอ ความสมบูรณ์ต่ำ หากสถานการณ์หญ้ายังไม่ดีขึ้หรือเลวร้ายลง พะยูนที่เหลืออยู่จะเสี่ยงอย่างมาก พะยูนไปต่อจากอ่าวพังงาและภูเก็ตไม่ได้ เพราะแนวหญ้าทะเลสุดตรงนี้ แหล่งหญ้าทะเลต่อไปคือทับละมุ ห่างไปเกือบ 100 กิโลเมตร พะยูนไม่สามารถว่ายผ่านทะเลเปิด เช่น ท้ายเหมือง เขาหลัก ไปถึงที่นั่นได้
พะยูนทั้งที่อยู่บริเวณเดิมและที่อพยพไปที่อื่นเริ่มทยอยตายลง เช่น อดอาหาร ป่วย สู้กันเพราะหวงแหล่งอาหาร โดนเรือชน เครื่องมือประมง ถูกล่า? ฯลฯ ทั้งหมดนั้นมีจุดเริ่มต้นจากหญ้าทะเลหายไปเพราะผลกระทบจากโลกร้อน ทำให้ระบบนิเวศเสื่อมโทรมและใกล้ล่มสลาย
Comment