จากกรณีที่ผู้เสียหายได้ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังที่มีพฤติกรรมหลอลวงให้ซื้อวัตถุมงคล เอาเงินไปแล้ว แต่ไม่ได้ของ ขอเงินคืนก็หายเงียบ ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อเล็งพิจารณาข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.67 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดี กับหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังคนหนึ่ง ที่มีพฤติกรรมหลอกเงินให้ซื้อเครื่องนำโชคเกี่ยวกับฮวงจุ้ย เพื่อนำมาตกแต่งบ้าน จำนวน 66 ราย ยอดความเสียหาย 107 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของหมอดูคนนี้จะใช้วิธีการหลอกลักษณะคล้ายกัน คือถูกเชิญให้ไปตามบ้าน โรงงาน และสถานประกอบการ ก่อนจะทักท้วงว่าสถานที่นี้กำลังมีปัญหา จำเป็นต้องนำเครื่องรางมาติดตั้งเพื่อแก้ไข อ้างว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้น บางคนสั่งซื้อนานกว่า 1 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รับสินค้า ส่วนเหตุที่ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เนื่องจากผู้ต้องหาสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการออกรายการตามสื่อเป็นประจำ ทำให้ผู้เสียหายไม่คาดคิดว่าจะถูกหลอกลวง
ทั้งนี้ชุดทำงานไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคารในประเด็นเส้นเงิน ที่ผู้เสียหายได้โอนเงินให้กับหมอดูคนดังกล่าว ซึ่งระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่าเข้าข่ายความผิดตามองค์ประกอบใด ทั้งนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการออกหมายเรียก หรือออกหมายจับตามที่มีกระแสข่าวลือออกมา
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มีผู้พบเห็นหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังปรากฏตัวที่ จ.หนองคาย คาดว่าจะมีการเดินทางออกนอกประเทศ ไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เนื่องจากเคยมีประวัติเดินทางเข้าออกประเทศบ่อยครั้ง
ซึ่งทางพ.ต.อ.กฤษชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า เบื้องต้นทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีข้อสั่งการให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ซึ่งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหนองคายได้เฝ้าติดตามตรวจสอบเพื่อป้องกันการหลบหนี อย่างไรก็ตามหากเป็นบุคคลต้องสงสัย หรือมีหมายจับ หรือได้รับคำสั่งมาให้ติดตาม จะมีการนำรูปของบุคคลนั้นติดไว้หน้าตู้อยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่มีหมายจับ หรือเป็นบุคคลที่ต้องหาในคดีสำคัญ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีบุคคลใดที่มีใบหน้าคล้ายกับซินแสคนดังเดินทางเข้าออกด่านดังกล่าว
มีรายงานว่าชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของซินแสคนดังกล่าวว่ามีการเข้ามาในพื้นที่จ.หนองคายตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน และจากการข่าวมีความเป็นไปได้ว่าอาจหลบหนีเข้าไปที่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยใช้เส้นทางธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกองปราบ และตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคายกำลังเร่งติดตามพร้อมประสานไปยัง ตำรวจ สปป.ลาว ให้ช่วยติดตามตัว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าซินแสคนดังหลบหนีไปพักอยู่ที่ใดกับใคร และใครเป็นคนพาหลบหนีอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ
Comment