ยอดขายรถร่วงหนัก! โรงงานชิ้นส่วนยานยนต์ทำงานแค่ 3 วัน โอทีไม่มีนานแล้ว โดยเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ดิ่งลง 37% เช่นเดียวกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต่ำ
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือน ก.ย. 2567
โดยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือน ก.ย. 2567 มีทั้งสิ้น 122,277 คัน ลดลง 25.48% จากเดือน ก.ย. 2566 จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือน ม.ค. – ก.ย. 2567 มี 1,128,026 คัน ลดลง 18.61% จากปี 2566
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือน ก.ย. 2567 มีจำนวน 39,048 คัน ลดลง 37.11% ถือเป็นยอดต่ำสุดในรอบ 53 เดือน หรือ 4 ปี 5 เดือน ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะร่วง 39.79% เนื่องจากหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ (SM) ยังอยู่ในระดับสูง 208,575 ล้านบาท หนี้เสียรถยนต์อยู่ที่ 259,330 ล้านบาท ในเดือน ก.ค. 2567
ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไตรมาสสองปี 2567 ที่โตต่ำแค่ 2.3% และคาดว่า 2567 จะเติบโตแค่ 2.7 – 2.8% เท่านั้น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. 2567 หดตัว 1.91% แสดงถึงรายได้คนทำงานยังคงอ่อนแอ และตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ย. 2567 รถยนต์มียอดขาย 438,659 คัน ลดลง 25.25%
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ด้านยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทบีอีวี เดือน ก.ย. 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,606 คัน ลดลง 25.81% เดือน ม.ค. – ก.ย. 2567 บีอีวี จดทะเบียนใหม่สะสม 75,653 คัน เพิ่มขึ้น 11.67%
ปลายเดือน ต.ค. นี้ จะหารือกับผู้ผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ ถึงแนวโน้มการลดเป้าการผลิตรถยนต์ไทย หลังจากเดือน ก.ค. ได้ลดเป้าการผลิตรถยนต์ใหม่เป็น 1,700,000 คัน จากเดิมต้นปีคาดการณ์ 1,900,000 คัน เป็นการปรับเป้าเฉพาะยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเหลือ 550,000 คัน จากเดิม 750,000 คัน
ขณะที่ยอดส่งออกคงเดิม 950,000 คัน ขณะนี้ยอดขายประเทศยังลดลงต่อเนื่อง และส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากสงคราม คาดภาพรวมลดลงหลายหมื่นคัน ทั้งนี้ผลจากการผลิตที่ลดลงอย่างหนัก ได้กระทบถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซัพพลายเชนจำนวนมาก ทำให้ต้องลดเวลางานเหลือเพียง 3-4 วันต่อสัปดาห์ ส่วนโอทีไม่มีนานแล้ว
Comment