เปิดสาเหตุถนนพหลโยธินทรุดยาว 100 เมตร ทางหลวงเร่งแก้ ขณะที่พะเยาเตรียมพร้อมอพยพชาวบ้านหากทรุดหนัก
จากกรณีเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 กันยายน เกิดเหตุถนนทรุดตัว บริเวณถนนพหลโยธินฝั่งขาขึ้น หลักกิโลเมตรที่ 815-816 พื้นที่หมู่ 14 บ้านแม่กานาไร่เดียว ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา โดยบริเวณที่ทรุดตัวเป็นระยะทางกว่า 50 เมตร ทำให้ถนนฝั่งขาขึ้น รถไม่สามารถสัญจรได้นั้น
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า หลังจากช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. เกิดเหตุถนนพหลโยธินฝั่งขาขึ้นหลักกิโลเมตรที่ 815-816 ในพื้นที่หมู่ 14 บ้านแม่กานาไร่เดียว ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เกิดการทรุดตัวนั้น ปรากฏว่าทรุดตัวเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ไม่ใช่แค่ 50 เมตร
โดยถนนฝั่งขาขึ้นไม่สามารถสัญจรได้ เนื่องจากถนนมี 2 ช่องจราจร ฝั่งขาขึ้นทรุดตัวลงแทบทั้งหมด รถจำนวนมากต้องใช้การสัญจรเพียงฝั่งขาล่องได้เพียงเส้นทางเดียว โดยถนนฝั่งขาขึ้นที่จะเข้าสู่เมืองพะเยาและจังหวัดเชียงราย รถไม่สามารถสัญจรได้ เนื่องจากถนนทรุดตัวกินพื้นผิวจราจรทั้งสองเลน
โดยคาดว่าถนนที่ทรุดดังกล่าวน่าจะเกิดจากสาเหตุฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนเป็นเหตุทำให้ถนนซึ่งอยู่บริเวณริมลำห้วยเกิดการทรุดตัว และได้รับความเสียหาย เคราะห์ดีขณะเกิดเหตุไม่มีผู้สัญจรไปมา จึงไม่มีความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทั้งกู้ภัยและเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง ได้ปิดกั้นถนนเพื่อไม่ให้รถวิ่งผ่าน โดยรถยนต์สามารถใช้ช่องจราจรได้เพียงบริเวณฝั่งขาล่อง
นายยศกร สุขสะอาด หน.ปภ.จ.พะเยา เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากแขวงทางหลวงพะเยาว่า ช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุถนนทรุดตัวฝั่งขาเข้าจังหวัดพะเยา สถานที่เกิดเหตุถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1 กิโลเมตรที่ 815+800 ถึงกิโลเมตรที่ 815+900 เมตร (ขาขึ้น) บริเวณรอยต่อระหว่างบ้านแม่กานาไร่เดียว หมู่ 14 ตำบลแม่กา จังหวัดพะเยา กับบ้านชนแดน อำเภองาว จังหวัดลำปาง ความเสียหาย ยาวประมาณ 100 เมตร กว้าง 4-6 เมตร (จำนวน 2 เลน จาก 4 เลน)
ล่าสุดทางนายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว โดยให้แขวงทางหลวงพะเยาและตำรวจทางหลวง ดำเนินการเบี่ยงทางเดินรถ โดยจัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย พร้อมจัดบุคลากรเข้าตรวจสอบและเฝ้าระวังพร้อมทั้งสำนักงานขนส่งจังหวัดพะเยา เข้าพื้นที่เพื่อเตรียมหาเส้นทางเลี่ยงให้กับรถโดยสารและรถบรรทุกขนาดใหญ่
ในส่วนของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพะเยาและสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใช้ความระมัดระวังในการใช้เส้นทางหรือหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รวมทั้งหน่วยงาน ปภ.จ.พะเยาให้เข้าพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุการเกิด สภาพความเสียหาย การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคอย่างเร่งด่วน
“ตอนนี้ผมได้แจ้งไปยังแขวงทางหลวงพะเยาและทางนายพูนศักดิ์ เมาะราษี ผอ.แขวงทางหลวงพะเยาได้แจ้งเข้ามาว่าบ่ายนี้จะนำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาจจะใช้ระยะเวลาพอสมควรจึงจะสามารถกลับมาใช้ช่องจราจรฝั่งขาเข้า จ.พะเยาได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ผมฝากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระวังเส้นทางดังกล่าวด้วย” นายยศกรกล่าว
Comment